เจาะลึกดาวหาง 3I/แอตลาส: ยานแม่เอเลียนหรือแค่หินอวกาศ?

ช่วงนี้มีข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับวัตถุลึกลับจากนอกระบบสุริยะที่ชื่อว่า ดาวหางทรีไอ/แอตลาส (3I/Atlas) หลายคนถึงขั้นเชื่อว่ามันคือยานแม่ของมนุษย์ต่างดาว! เรื่องนี้จริงหรือมั่ว? มาเจาะลึกข้อมูลที่แท้จริงกันครับ

ดาวหางทรีไอ/แอตลาส (3I/Atlas) เป็นวัตถุระหว่างดวงดาว (interstellar object) ที่ถูกค้นพบเป็นลำดับที่ 3 ที่มาจากนอกระบบสุริยะของเรา มันกำลังเดินทางผ่านเข้ามาในละแวกบ้านของเราในจักรวาล ก่อนที่จะจากไปอย่างถาวรในช่วงต้นปีหน้า ความพิเศษของมันทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ถึงขนาดที่อีลอน มัสก์ และคิม คาร์เดเชียนยังออกมาแสดงความเห็น!

ดาวหางทรีไอ/แอตลาส (3I/Atlas): ปรากฏการณ์ธรรมชาติหรือเทคโนโลยีเอเลียน?

ศาสตราจารย์อาวี โลเอบ นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ชื่อดังจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เป็นหนึ่งในผู้ที่ตั้งข้อสงสัยว่า ดาวหางทรีไอ/แอตลาส (3I/Atlas) อาจเป็นสิ่งประดิษฐ์จากอารยธรรมนอกโลก แต่ทาง NASA และนักดาราศาสตร์ส่วนใหญ่ยืนยันว่าจากการสังเกตการณ์ทั้งหมดที่มี สามารถอธิบายได้ด้วยปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ

ดาวหางดวงนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2025 โดยกล้องโทรทรรศน์แอตลาสในชิลี และสร้างความฮือฮาในวงการดาราศาสตร์อย่างมาก ศาสตราจารย์คริส ลินตอตต์ จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดกล่าวว่า “เราน่าจะเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือน แล้วหลังจากนั้นเราก็จะไม่มีโอกาสเห็นวัตถุนี้อีกเลย ดังนั้นเราจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ภายในห้วงเวลาที่เหลืออยู่”

ขนาดของ ดาวหางทรีไอ/แอตลาส (3I/Atlas) มีการประมาณการที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ขนาดเท่าเกาะแมนฮัตตัน ไปจนถึงเส้นผ่านศูนย์กลาง 5.6 กิโลเมตร นาซาระบุว่ามันพุ่งผ่านอวกาศด้วยความเร็วราว 61 กิโลเมตรต่อวินาทีตอนที่ถูกค้นพบ นักดาราศาสตร์เชื่อว่ามันก่อตัวขึ้นในช่วงกำเนิดของระบบดาวที่อยู่ห่างไกล และเดินทางผ่านอวกาศมานานหลายพันล้านปี

สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับดาวหาง 3I/Atlas

  • อายุเก่าแก่: บางการศึกษาบอกว่ามันอาจมีอายุมากกว่า 7 พันล้านปี ซึ่งหมายความว่ามันเกิดก่อนระบบสุริยะของเราเสียอีก
  • ทิศทาง: มันมาจากทิศทางของกลุ่มดาวคนยิงธนู ซึ่งเป็นตำแหน่งศูนย์กลางของกาแล็กซีทางช้างเผือก
  • ความเร็วที่ผิดปกติ: เมื่อ ดาวหางทรีไอ/แอตลาส (3I/Atlas) อุ่นขึ้น มันแสดงให้เห็นความเร็วที่ไม่ข้องเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานว่าอาจมี “เครื่องยนต์จรวดเชิงเทคโนโลยี” ขับเคลื่อนมันอยู่

อย่างไรก็ตาม ศ.ลินตอตต์ อธิบายว่า การเร่งความเร็วของมันนั้นอยู่ในขอบข่ายของสิ่งที่เรียกว่า “การคายก๊าซ” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่วัสดุบางส่วนในดาวหางเปลี่ยนจากน้ำแข็งกลายเป็นก๊าซ และปล่อยกลุ่มเมฆและฝุ่นพุ่งออกมาที่ทำหน้าที่เหมือนเครื่องขับดัน

นอกจากนี้ ดาวหางทรีไอ/แอตลาส (3I/Atlas) ยังแสดงการเปลี่ยนแปลงสีจากแดงเป็นน้ำเงิน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดทฤษฎีเกี่ยวกับแหล่งพลังงานของเอเลียน นักดาราศาสตร์ยังคงพยายามหาคำตอบว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น แต่ก็บอกว่ายังมีคำอธิบายตามธรรมชาติอยู่มากมาย การเปลี่ยนแปลงสีของมันอาจบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางเคมี

สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์สนใจมากที่สุดคือองค์ประกอบทางเคมีของ ดาวหางทรีไอ/แอตลาส (3I/Atlas) กล้องโทรทรรศน์ตรวจพบคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก และดูเหมือนว่ามันจะอุดมไปด้วยธาตุนิกเกิล ซึ่งเป็นข้อสังเกตที่ช่วยกระตุ้นแนวคิดเรื่องยานแม่ของเอเลียน เพราะชิ้นส่วนจำนวนมากของยานอวกาศของมนุษย์เองมักมีนิกเกิลเป็นส่วนประกอบ

หลังจากเดินทางผ่านดวงอาทิตย์ไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดาวหางทรีไอ/แอตลาส (3I/Atlas) กำลังจะอำลาพวกเราในไม่ช้านี้ มันจะเข้าใกล้โลกที่สุดในวันที่ 19 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ที่ระยะปลอดภัย 270 ล้านกิโลเมตร หอดูดาวทั้งในอวกาศและบนพื้นโลกหลายแห่งหวังว่าจะตรวจวัดดาวหางดวงนี้เพิ่มเติม และแม้แต่นักดาราศาสตร์สมัครเล่นก็สามารถมองเห็นมันได้ด้วยกล้องโทรทรรศ์ขนาด 8 นิ้ว

ถึงแม้ ดาวหางทรีไอ/แอตลาส (3I/Atlas) จะไม่ได้เป็นยานแม่เอเลียนอย่างที่หลายคนหวัง แต่การศึกษาดาวหางระหว่างดวงดาวเหล่านี้ก็ยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจต้นกำเนิดของระบบดาวต่างๆ และวิวัฒนาการของกาแล็กซีของเรา ด้วยกล้องโทรทรรศน์ที่ทันสมัยมากขึ้น เราคาดว่าจะค้นพบวัตถุแบบนี้อีกมากมายในอนาคต และอาจจะไขปริศนาเกี่ยวกับจักรวาลที่เรายังไม่รู้อีกมากมายก็เป็นได้!

ที่มา – รู้จักดาวหางทรีไอ/แอตลาส (3I/Atlas) ที่จุดกระแสทฤษฎี “ยานแม่ของมนุษย์ต่างดาว”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *